สรุปคำถาม คำตอบ SSF
1. SSF คืออะไร
SSF ย่อมาจาก Super Savings Fund คือ กองทุนรวมเพื่อการออม ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว โดยรัฐให้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี
2. SSF เหมาะกับใคร
เหมาะกับผู้เริ่มต้นวัยทำงานเพื่อเป็นแรงจูงใจในการออมเงินระยะยาว โดยเงินที่ผู้ลงทุนจ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุน SSF จะได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
3. SSF มีนโยบายการลงทุน
มีนโยบายการลงทุนให้เลือกหลากหลาย ลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภทเหมือนกองทุนรวมทั่วไป ไม่จำกัดแค่หุ้นไทย แต่จะลงทุนใน ตราสารหนี้ กองทุนผสม กองทุนหุ้นต่างประเทศ
4. SSF มีข้อแตกต่างจากกองทุนรวมทั่วไป
1. เงินลงทุนนำมาลดหย่อนภาษีได้
2. ไม่สามารถโอน จำนำ หรือนำหน่วยลงทุนไปเป็นหลักประกันได้
3. ไม่มีการจ่ายเงินปันผล
5. SSF มีเงื่อนไขในการลงทุนอย่างไร
1. ซื้อได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ และต้องไม่เกิน 200,000 บาท
(เมื่อรวม RMF + SSF + PVD + กบข. + กอช. + ประกันบำนาญ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท)
2. ต้องถือครองไม่น้อยกว่า 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ
3. ปีที่ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ได้เป็นระยะเวลา 5 ปี (ปี 2563 - 2567)
4. ไม่มีจำนวนเงินขั้นต่ำในการซื้อ
6. SSF Extra คืออะไร
SSF Extra ย่อมาจาก Super Saving Fund Extra คือ กองทุนเพื่อการออมในระยะยาวที่ครม. มีมติเห็นชอบจัดตั้งขึ้น ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบตลาดทุนและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้น สูงสุด 200,000 บาท ในปี 2563 (เพิ่มจาก SSF ปกติ และไม่ต้องมารวมกับกองทุนลดหย่อนประเภทอื่นๆ)
SSF Extra จำกัดระยะเวลาลงทุน 1 เม.ย - 30 มิ.ย 63 เท่านั้น
มีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่น้อยกว่า 65% คือเป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65%
ต้องถือครองไม่น้อยกว่า 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ
7. SSF มีข้อแตกต่างจาก RMF อย่างไร
แตกต่างกันในเงื่อนไขการลงทุนดังนี้
1. SSF ถือหน่วยลงทุน 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ
RMF ถือหน่วยจนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และถือหน่วยลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะขายได้
2. SSF ไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
RMF ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี หรือปีเว้นปี ไม่ระงับการซื้อเกินกว่า 1 ปีติดต่อกัน
3. SSF ลงทุนสูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
RMF ลงทุนสูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุน SSF , PVD, กบข., เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ,กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายของ รร.เอกชน, กองทุนการออมแห่งชาติ
8. SSF มีข้อเหมือนกัน RMF อย่างไร
1. ลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท
2. ไม่มีการจ่ายเงินปันผล
3.ไม่กำหนดจำนวนเงินซื้อขั้นต่ำ
4. หากลงทุนครบตามเงื่อนไข จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
5. ไม่สามารถโอน จำนำ หรือนำหน่วยลงทุนไปเป็นหลักประกันได้
6. ใช้วงเงินลดหน่อยรวมเดียวกัน คือ ไม่เกิน 500,000 บาท
สรุปคำถาม คำตอบ RMF
1.RMF คืออะไร
RMF ย่อมาจาก Retirement Mutual Fund หรือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนให้คนไทยเก็บออมระยะยาวเพื่อเอาไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณอายุ คล้ายๆ กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) ของเอกชน และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ของข้าราชการ
2. RMF เหมาะกับใคร
1. เหมาะสำหรับคนทุกที่ต้องการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ ซึ่งไม่มี สวัสดิการออมเงินเพื่อวัยเกษียณมา
2. ลูกจ้างหรือพนักงาน ที่นายจ้างและลูกจ้างยังไม่พร้อมใจที่จะจัดให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทำให้ลูกจ้างไม่สามารถสะสมเงินลงทุนเพื่อวัยเกษียณได้
3. ลูกจ้าง พนักงานหรือข้าราชการ ที่มีสวัสดิการออมเงินเพื่อวัยเกษียณอยู่แล้ว แต่ต้องการจะออมเพิ่มเติมให้มากขึ้น
3. RMF มีนโยบายการลงทุน
มีนโยบายการลงทุนให้เลือกหลากหลายลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภทเหมือนกองทุนรวมทั่วไป ตั้งแต่กองทุนที่มีระดับความเสี่ยงต่ำ เน้นลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร กองทุนที่มีระดับความเสี่ยงปานกลาง ที่อาจผสมผสานระหว่างการลงทุนในตราสารหนี้ และตราสารทุน กองทุนที่มีระดับความเสี่ยงสูง เน้นลงทุนในตราสารทุน
4. RMF มีข้อแตกต่างจากกองทุนรวมทั่วไป
1. เงินลงทุนนำมาลดหย่อนภาษีได้ หากมีการลงทุนเป็นไปตามเงื่อนไขที่ทางการกำหนด
2. หากลงทุนไม่ถึง 5 ปี กำไรที่ได้รับจากการลงทุน (capital gain) ต้องนำไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
3. ไม่สามารถโอน จำนำ หรือนำหน่วยลงทุนไปเป็นหลักประกันได้
4.ไม่มีการจ่ายเงินปันผล
5. RMF มีเงื่อนไขในการลงทุนอย่างไร
เงินลงทุนสำหรับปีภาษี 2563 เป็นต้นไป
1. ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ
2. ซื้อได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ และต้องไม่เกิน 500,000 บาท (รวม PVD, กบข., เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ,กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายของ รร.เอกชน, กองทุนการออมแห่งชาติ, กองทุน SSF
3. ลงทุนต่อเนื่องทุกปี หรือปี เว้นปี จนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
4. ระยะเวลาการถือครอง ต้องถือครองไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก และถือจนถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์
6. สิทธิประโยชน์ทางภาษี RMF มีอะไรบ้าง
หากปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน ผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีถึง 2 ทาง คือ
1. เงินซื้อหน่วยลงทุนใน RMF จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามที่จ่ายจริงสูงสุด 30% ของเงินได้ในแต่ละปี โดยเมื่อนับรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท และ ต้องถือหน่วยลงทุนจนครบอายุ 55 ปีบริบูรณ์และลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
2. กำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน (Capital Gain) ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ หากลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
7. อย่างไรที่เรียกว่าผิดเงื่อนไขการลงทุนของ RMF
1. ระงับการซื้อหน่วยลงทุนเกินกว่า 1 ปีติดต่อกัน ทั้งที่ยังคงมีเงินได้ หรือ
2. จำนวนเงินลงทุนไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ หรือ
3. ขายคืนหน่วยลงทุนก่อนที่ผู้ลงทุนจะอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
ทั้งนี้ หากเป็นไปตามข้อหนึ่งข้อใด ก็ถือว่าผิดเงื่อนไขการลงทุน
ยกเว้น กรณีที่ผู้ลงทุนเสียชีวิต หรือทุพพลภาพ จะไม่ถือว่าผิดเงื่อนไขการลงทุน
8. หากผิดเงื่อนในการลงทุน RMF ผู้ลงทุนต้องดำเนินการ ดังนี้
1. กรณีที่ลงทุนไม่ถึง 5 ปี
ต้องคืนเงินภาษีทั้งหมดทุกปี ที่ได้รับยกเว้นไป
เมื่อขายคืนหน่วยลงทุน ต้องนำกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน (Capital Gain) ไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ซึ่งในทางปฏิบัติเมื่อผู้ลงทุนขายคืน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจะหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ของกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุนไว้ก่อน และเมื่อผู้ลงทุนไปยื่นแบบเสียภาษีเงินได้ ก็จะคำนวณอีกครั้งว่าจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกหรือไม่ อย่างไร
2. กรณีที่ลงทุนตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป และมีการผิดเงื่อนไข
ต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับยกเว้นไปในช่วง 5 ปีย้อนหลัง
**การชำระภาษีตามข้อ 1 และ 2 ต้องชำระภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ผิดเงื่อนไข